ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ในวิชาภาษาญี่ปุ่น อาจารย์เคยให้อ่านเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งของเอะคุนิ คาโอริ ที่ชื่อว่า Midori No Neko หรือแปลเป็นไทยว่า “แมวสีเขียว”
มันเป็นเรื่องของเพื่อนสองคนที่สนิทกัน ต่อมาเพื่อคนหนึ่งมีปัญหาสุขภาพจิต และค่อยๆ เปลี่ยนไป เราเห็นความสัมพันธ์ของทั้งสองที่แย่ลงเรื่อยๆ จนเพื่อนคนนั้นป่วยหนัก และอีกคนก็ไม่รู้จะแก้ไขสถานการณ์อย่างไร สุดท้ายทั้งสองคนก็ไม่สามารถกลับมาคุยกันได้อีก เรื่องก็จบลงแบบไร้ทางออกเช่นนี้
มันไม่ใช่ความเศร้าแบบการจากลา ที่ร้องไห้มีน้ำตา และใช้เวลาสักพักเพื่อทำใจ แต่เป็นการอยู่กับความหดหู่เล็กๆ ที่กัดกินจิตใจลงไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้หนทางเปลี่ยนแปลง

ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งทำตัวไม่ดี ไม่น่าคบหา การเลิกคบกันมันไม่ใช่เรื่องยาก แต่พอเป็นเรื่องของความเจ็บป่วยที่ทำให้อีกฝ่าย “ไม่เป็นตัวของตัวเอง” ทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เลยจะไปตัดสินว่า เขาทำไม่ดีกับเราก็ไม่ถูก เพราะอีกฝ่ายคือคนที่ต้องการความช่วยเหลือ
แต่ความสนิทสนมก็ไม่สามารถเจาะเข้าไปในกำแพงของอีกฝ่าย เพื่อดึงความเป็นตัวของตัวเองที่แท้จริงออกจากพันธนาการภายในจิตใจได้ สุดท้ายมันเป็นความก้ำกึ่งที่เหลือทน ของความไม่มีอะไรดีขึ้น แต่ก็ไม่พังสักที เลยเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ กลายเป็นเรื่องของคนที่เฝ้ามองดูชีวิตของอีกคนหนึ่งดิ่งลงเหว และใจสลายไปกับมัน
เรื่องสั้นนั้นไม่ได้บอกว่าตอนจบ เพื่อนคนนั้นได้ไปพบจิตแพทย์หรือไม่ หรืออีกฝ่ายจะมีวิธีเปิดใจอย่างไร หรือว่าจะห่างหายกันไปเฉยๆ มันเป็นแค่การตัดฉากแห่งความร้าวรานมาให้เราดู ก็เท่านั้น
เรารู้อยู่แก่ใจว่าทุกสิ่งในโลก “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” แต่กว่าจะรู้ว่ามันจะผ่านไปแบบ 1.ความสัมพันธ์ดีขึ้นไปพร้อมๆ กับสุขภาพจิตของอีกฝ่าย หรือ 2.ความสัมพันธ์ถูกตัดขาด ไปพร้อมกับกับอาการป่วยของอีกคนที่ทรุดหนัก หรือ 3.ความสัมพันธ์สิ้นสุด ต่างคนต่างไปมีชีวิตที่ดีของตัวเอง เราจะอยู่กับความหดหู่เล็กๆ นี้ไปอย่างไร ไม่มีใครให้คำตอบได้จริงๆ