แด่ตำนานกรันจ์ที่จากไป ทำไมศิลปินร็อคถึงพัวพันกับเหล้า ยา และการฆ่าตัวตาย

Posted by

เมื่อวานนี้มีมีข่าวเศร้า Chris Cornell นักร้องนำวง Soundgarden และ Audioslave เสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดด้วยวัย 52 ปี ในห้องพักที่โรงแรมหลังเสร็จจากคอนเสิร์ตที่ดีทรอยต์ จากการชันสูตร พบว่าร็อคเกอร์ชื่อดังเสียชีวิตจากการแขวนคอ ปิดตำนานกรันจ์/อัลเทอร์เนทีฟ ร็อคในยุค 90 ไปอีกคนต่อจาก Kurt Cobain (Nirvana), Shanon Hoon (Blind Melon), Scott Weiland (Stone Temple Pilot) และ Layne Staley (Alice In Chain)

แต่พอดูเคสการเสียชีวิตของแต่ละคนแล้วจะพบว่า พวกเขามีประวัติการใช้ยาเสพติดรวมถึงดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก และพวกเขาจบชีวิตด้วยตัวเอง ทั้งการฆ่าตัวตายแบบจงใจ และการเสพยาเกินขนาดจนตัวตาย เราเลยขอ RECAP เล่าชีวิตของศิลปินกรันจ์เหล่านี้ และหาคำตอบว่าทำไมศิลปินเหล่านั้นต้องเสพยา

Image may contain: 3 people, people playing musical instruments, people on stage and text

1. Chris Cornell เติบโตในย่านชุมชนแออัด สภาพแวดล้อมแบบนี้ทำให้เขาเริ่มเสพรวมถึงขายยาเสพติดตั้งแต่อายุ 12 ผ่านไปหนึ่งปีเด็กชาย Chris ก็เสพ PCP ทุกวันจนเขาเกิดภาพหลอนเมื่อตอนอายุ 14 ก็เลยเลิก แต่การเลิกยา แล้วกลับไปเรียนหนังสือคือฝันร้ายของเขาเมื่อเขารู้สึกแปลกแยก เขาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีเพื่อนและไม่ได้คุยกับใคร พออายุ 16 เลยออกจากโรงเรียน จุดเปลี่ยนแรกในชีวิตของเขามาถึงเมื่อเขาได้เรียนเปียโนและกีตาร์ตอน 17 และเริ่มแต่งเพลงของตัวเอง และเขาก็ค้นพบพรสวรรค์ที่เหมือนฟ้าประทาน นั่นคือเสียงร้องอันทรงพลังและทักษะทางภาษา ที่ช่วยในการเขียนเพลง

https://thanyanannet.files.wordpress.com/2019/04/aafe1-1dj9dztzq6gtb7p5fja22ow.jpeg

2. ถึงแม้จะเลิกยาได้ครั้งหนึ่ง แต่มีปีศาจอีกตัวหนึ่งในใจคือเหล้า พ่อแม่ของเขาเป็นแอลกอฮอลิกส์ ความอยากดื่มเหล้ามันอยู่ในสายเลือด Cornell ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Spin เกี่ยวกับการดื่มเหล้าว่า “ผมคิดว่าแอลกอฮอล์นำคุณไปสู่ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะมันช่วยเอาความกลัวออกไป การเสพยาที่เลวร้ายที่สุดของผมมันก็มาจากตอนที่ผมเมาหนักจนไม่แคร์อะไรอีกแล้ว”

หลังจากที่วง Soundgarden แยกวงไปในปี 1997 เขาก็เล่นยาอย่างหนัก รวมถึงอาการซึมเศร้า จนกระทั่งสมาชิกวง Audioslave วงใหม่ของเขาบอกให้เขาไปบำบัดในปี 2002 และในปี 2007 เขาประกาศออกสื่อว่าเลิกยาได้สำเร็จ และนั่นทำให้เหตุการณ์เสียชีวิตของเขาเป็นปริศนาต่อไป Vicky Cornell ภรรยาของเขาให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่มีอาการซึมเศร้า หรือแสดงความอยากฆ่าตัวตายให้เห็นมาก่อนเลย

https://consequenceofsound.net/wp-content/uploads/2019/04/Chris-Cornell-with-Black-Hole-inset.png?w=807

3. ตรงข้ามกับ Chris การฆ่าตัวตายของ Kurt Cobain นักร้องนำของ Nirvana นั้นมีสัญญาณเตือนมาก่อนหน้าเป็นเดือน แต่ไม่มีใครห้ามเขาได้ มีนาคมปี 1994 ศิลปินดังได้ขังตัวเองอยู่ในห้องกับปืนพกและตะโกนขู่ภรรยาของเขาว่าจะฆ่าตัวตาย สุดท้ายเขาสงบลงและยอมเปิดประตูออกมา อาการสติแตกแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับ Kurt จากการเสพยาอย่างหนักตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น โดยเฉพาะเฮโรอีน ที่เมื่อปี 1993 เขาเคย overodose จนหัวใจหยุดเต้น และ Courtney Love ภรรยาของเขาปั๊มหัวใจกลับมาได้ทัน

แต่จากการพยายามฆ่าตัวตายในครั้งนั้น ทางค่ายเพลงต้องการให้เขาไปบำบัด Kurt ไปอยู่ได้เพียง 11 วัน ก็ตัดสินใจ ปีนรั้วหนีออกมาเสียดื้อๆ เขากลับมาที่ซีแอตเทิลบ้านเกิด ซื้อปืนลูกซองจากร้าน โดยให้เหตุผลว่ามีคนบุกรุกในบ้าน และวันที่ 14 เมษายน เขาก็จบชีวิตตัวเองที่บ้าน ด้วยปืนลูกซองกระบอกนั้น นั่นเป็นประการณ์หลอนที่ฝังใจ Courtney Love นักร้องสาวจากวง Hole ภรรยาของ Kurt ไปตลอดกาล


4. ไม่ใช่แค่ Kurt คนใกล้ตัวของ Courtney อีกคนที่จากไปเพราะยาเสพติดคือ Scott Weiland นักร้องจากวง Stone Temple Pilot และ Velvet Revolver เขากับ Courtney มีประสบการณ์เช่าห้องสวีทในโรงแรม ขังตัวในนั้นเพื่อเสพยาด้วยกันเป็นอาทิตย์มาแล้วในปี 1995 ถึงแม้ Scott จะประกาศออกสื่อว่าเขาเลิกยาได้ตั้งแต่ปี 2002 และเขาดูสุขภาพแข็งแรงดี

สิ่งที่น่าเศร้าคือมันเป็นคำโกหก เพราะเขา ‘แอบเล่นยา’ ตลอด เพียงแต่ปิดบังคนรอบตัวเท่านั้น Scott เสียชีวิตด้วยหัวใจล้มเหลว โรคที่เป็นพันธุกรรมของตระกูล Weiland หลังจากเสพยามากเกินขนาด

ตลอดชีวิตของ Scott เขาเข้าๆ ออกๆ สถานบำบัดมาหลายต่อหลายครั้ง จนถึงกับให้สัมภาษณ์ลงนิตยสาร Esquire เอาไว้ว่า “ผมตายเพื่อลูกได้ แต่ผมคลีนเพื่อลูกไม่ได้”

ในช่วงท้ายของชีวิต เขาเริ่มมีอาการประสาทหลอน ร่วมกับไบโพลาร์ จนคนรอบตัวเริ่มเป็นห่วง แต่สุดท้ายเขาก็จบชีวิตด้วยพฤติกรรมการใช้ยาของตัวเอง

https://media.gq.com/photos/5661dac7408d33024d5da5fd/16:9/w_1280,c_limit/scott-weiland-obit.jpg

5. สิ่งที่น่าตั้งคำถามคือ ทำไมพวกเขาถึงต้องเสพยา อาจารย์ด้านจิตวิทยา Robin Dunbar จากมหาวิทยาลัยออกฟอร์ด ได้ทำวิจัยและพบว่า ความสุขของการเล่นดนตรีต่อหน้าฝูงชน มีผลต่อสมองเทียบเท่าการเล่นยา (ซึ่งความสุขของการได้เล่นให้คนอื่นมันสูงมากกว่าการเป็นผู้ฟังอยู่มาก) และนั่นทำให้พวกเขาต้องเล่นยาเพื่อคงความสุขแบบนั้นไว้ ส่วน John Tsilimparis จิตแพทย์มองว่าการใช้ยาของศิลปินคือการรับมือกับความกดดัน และมันช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้ชั่วคราว


6. Josh Mangel นักดนตรีกลางคืน ได้เขียนบทความรับเชิญใน thoughtcatalog.com สิ่งแวดล้อมมีผลให้นักร้อง/นักดนตรี เล่นยา เช่น

(A) สถานที่ – สถานที่เล่นคอนเสิร์ตคือที่ๆ คนมาพร้อมจะมาเมาทั้งเหล้าหรือยาอยู่แล้ว

(B) ความรวย – ยิ่งรวยยิ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ พ่อค้ายาเสพติดก็เลยอยากจับทาร์เกตที่นักร้องชื่อดังเป็นธรรมดา

(C) สถานะทางสังคม – เป็นคนดังใครๆ ก็อยากรู้จัก เช่นเดียวกับพวกค้ายา ที่อยากมีลูกค้าเป็นนักร้องดังเพื่อสร้างโปรไฟล์ให้ธุรกิจมืดของตัวเอง

(D) ความสามารถที่หาคนแทนไม่ได้ – ทักษะการร้องเพลงหรือดนตรีเป็นอะไรที่เฉพาะตัวมากๆ หาคนทำแทนแทบจะไม่ไม่ได้ พวกเขาเลยมีพื้นที่ต่อรองในการทำตัวแย่ๆ สูง

(E) อายุน้อย – ศิลปินดังเร็ว และไม่มีภาระทางครอบครัวอะไร ทำให้เขาใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงได้ตามใจปรารถนา

“ถ้าคุณเห็นร็อคสตาร์เมา คิดว่าเขาจะโดนไล่ออกไหม ที่จริงแล้ว แฟนเพลงเองก็คาดหวัง และก็ชื่นชอบความเมานั้นด้วยซ้ำ เขาเห็นว่าถ้าร็อคสตาร์ใช้ชีวิตเสี่ยงอันตราย มันยิ่งเจ๋งกว่าในสายตาพวกเขา พวกเขาสนับสนุนมัน”

(F) ความผูกพัน – พวกเขาต้องเดินทางตลอดเวลา ไม่สามารถหยุดที่ใดที่หนึ่งและสานสัมพันธ์กับใครได้ยาวนาน และใช้ยาเพื่อเติมเต็มความเหงาลึกๆ

https://img.apmcdn.org/857949ef97e3f2a8140d2c7daa72e2257f18c9bf/uncropped/41a738-20151204-scott-weiland-tour-bus-interior.jpg

7. และอีกปัจจัยหนึ่งที่น่าคิดคือ ความคาดหวังของแฟนเพลง Chris Cornell เองก็เคยกล่าวไว้ว่า ปัญหาของศิลปินเสพยาคือคนไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา เพราะนักร้องสามารถทำงานไปเมาไปได้ ไม่โดนไล่ออก

“และผมยังคงคิดว่าคนเรามักจะยกยอปอปั้นนักร้องหรือนักแสดงที่จากไปตั้งแต่อายุยังน้อย… มันรู้สึกว่าพวกเขาเป็นตำนาน”


อย่างไรก็ตาม เราก็อาจจะต้องเข้าใจด้วยว่า ยาเสพติดหรือการติดแอลกอฮอล์ อาจจะไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย แต่ยังอาจจะมีสาเหตุมาจากเรื่องอื่นๆ ด้วยเช่นปัจจัยจากสภาพแวดล้อมที่นำไปสู่ความเครียด รวมถึงปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ


ลงครั้งแรกที่ The MATTER ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2017 (หลังจากการเสียชีวิตของ Chris Cornell หนึ่งวัน)

https://www.facebook.com/thematterco/photos/a.1735876059961122/1884025205146206/?type=3&theater

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s