สิ่งหนึ่งที่แนวคิด “อำนาจนิยม” ทำร้ายสังคมไทย คือการกดหัวให้คนหงอกับผู้มีอำนาจเหนือกว่า และกร่างกับคนที่มีอำนาจเท่ากันหรือด้อยอำนาจมากกว่าแทน เพื่อชดเชยกับการที่ตัวเองโดนคนมีอำนาจเหนือกว่ากดหัว
ตัวอย่างง่ายๆ เลยคือแท็กซี่ แนวคิดอำนาจนิยมกดหัวคนขับแท็กซี่ให้ยอมทนต่อค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 35 บาทมามากกว่า 20 ปี ซึ่งแทนที่คนขับแท็กซี่จะรวมตัวกันเป็นสหภาพแรงงานแล้วไปประท้วงกับกรมขนส่งทางบก เพื่อปรับราคาค่าโดยสาร อำนาจนิยมกดหัวให้พี่ๆ โชเฟอร์หงอ และหันมาชดเชยค่าโดยสารด้วยการปฏิเสธผู้โดยสารคนไทย และรอชาวต่างชาติ (ซึ่งด้อยกว่าในความรู้เรื่องเมืองไทย) มาให้คนขับหลอกคิดราคาเหมาไปแทน
หรือตัวอย่างที่ทันสมัยกว่านี้หน่อยก็คือเรื่องชุมนุมของประชาชนปลดแอกและคณะราษฎร์ 63 หลายๆคนเลือกที่จะหลับตาให้กับความเลวร้ายของรัฐ และประนามคนที่ออกมาร่วมชุมนุม (ซึ่งเป็นคนระดับเดียวกัน) ว่าทำให้บ้านเมืองเดือดร้อนบ้าง ทำให้เศรษฐกิจไม่ดีบ้าง ทำให้เสี่ยงติดโควิดบ้าง หรือโบ้ยว่า วิกฤติโควิดไม่ทันหาย วิกฤติม็อบก็มาซ้ำเติมประเทศ ทั้งที่ความจริง ถ้าพวกเขาอยากให้บ้านเมืองดีขึ้น ก็ควรออกมาร่วมชุมนุมกดดันรัฐบาลมิใช่หรือ ไม่ใช่หันไปปิดปากม็อบ และสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาล
อำนาจนิยมนี้เป็นรากของวัฒนธรรมไทยมาหลายร้อยปี เป็นต้นธารของระบบศักดินาและระบบราชการไทยในปัจจุบัน หล่อหลอมให้พ่อแม่ ครูอาจารย์ และชนชั้นกลาง Gen X กับ Boomer เพิกเฉยต่อความเดือดร้อนที่คนรุ่นใหม่เผชิญ

แน่นอนว่า ในสายตาของ Gen X กับ Boomer แค่คนรุ่นใหม่ออกมาปราศรัยด้วยความเชื่อที่ว่า “คนเท่ากัน” มันคือความเลวร้ายในสายตาพวกเขาแล้ว โดยไม่ต้องฟังเนื้อหาเสียด้วยซ้ำ ไม่แปลกที่พวกเขาจะยังมองว่าม็อบเกิดจากนักการเมืองหนุนหลังและต้องการล้มล้างสถาบัน เพราะสำหรับเขาแค่มีท่าทีกระด้างกระเดื่องต่อผู้มีอำนาจ คือความผิดในตัวเองแล้ว โดยไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น พวก Gen X กับ Boomer ที่หมอบกราบเสียจนเคยชิน จึงโกรธผู้ชุมนุมที่พูดถึงสถาบันเบื้องสูง ด้วยน้ำเสียงที่ต่างไปจากเขา โดยไม่ต้องสนใจว่าสิบข้อเรียกร้องนั้นคืออะไรด้วยซ้ำ
อำนาจนิยมหลอกตาคนบางกลุ่มว่า ผู้น้อยต้องการอะไรจากผู้ใหญ่ ต้องทำตัวหมอบกราบ สยบยอม ประจบประแจง จนผู้ใหญ่ใจอ่อนเมตตาสงสาร หาใช่การตระหนักรู้ในสิทธิตัวเอง และเรียกร้องอย่างเท่าเทียม
อำนาจนิยมสร้างเพดานความคิดว่า ตัวเองไม่มีอำนาจอะไร เรียกร้องไปก็เหนื่อยเปล่า แถมยังกดหัวคนให้ยอมรับว่ารัฐสามารถใช้ความรุนแรงได้เป็นเรื่องปกติ ถ้าผู้ชุมนุมบาดเจ็บ ถือเป็นความโง่รนหาที่เอง