ปัญหาที่น่ากลัวจริงๆ ของรัฐบาลไทยในการรับมือวิกฤติโควิด-19 คือเราไม่แน่ใจว่าประยุทธ์หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ได้รับข้อมุลจริงหรือไม่ หรือเป็นข้อมูลที่ถูกคัดกรองและตัดแต่งโดยพนักงานระดับปฏิบัติการ เพื่อเสนอเบื้องบนให้เบื้องบนรู้สึกดีกับตัวเองว่า “ฉันทำดีแล้ว ฉันทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็คือผิดที่คนอื่น”
เรานึกถึงตอนมัธยมที่ตอนปิดเทอมที่เรากับเพื่อนๆกลุ่มหนึ่งโดนเกณฑ์ให้มาช่วย “ตกแต่ง” โรงเรียนให้ดูดี ต้อนรับนักการศึกษาจากกระทรวงที่มาดูงานที่โรงเรียน ซึ่งนั่นมาพร้อมกับ
1. โครงงานวิทยาศาสตร์ที่จู่ๆ ก็มีขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล
2. การอุปโลกน์กรงขนาดใหญ่หนึ่งกรงให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ ที่นั่นทำให้เราต้องไปไล่ตามจับผีเสื้อข้างโรงเรียนมาใส่ในกรงนั้น เพื่อให้เห็นว่าสวนมันทำงานได้จริง
3. ทำความสะอาดโรงเรียน จัดบอร์ดต่างๆ ให้สวยงาม
สุดท้ายโรงเรียนที่เราอยู่มันก็ดูดีขึ้นมาทันตาเห็น และอาจารย์ก็แฮปปี้ที่นักการศึกษาเห็นโรงเรียนเราดีอย่างโน้นอย่างนี้ เพราะอาจารย์เค้าคิดกันว่าถ้าเราตกแต่งโรงเรียนให้ดูดี จะทำให้นักการศึกษาชอบโรงเรียนนี้ และจะให้งบเพิ่มกับโรงเรียน เพราะโรงเรียนทำให้นักการศึกษาจะเห็นว่างานของเค้าออกมาดีเลิศเพียงใด
นั่นทำให้เราสงสัยว่า ถ้าอยากรู้ว่าโรงเรียนเป็นอย่างไร ทำไมถึงไม่เอาโรงเรียนจริงๆ ที่เป็นปกติทุกวันมาให้นักการศึกษาดู เขาจะได้เห็นเรื่องที่ไม่ดีไม่งาม เห็นปัญหาในปัจจุบัน จะได้หาทางการไขในอนาคต
พอเรียนจบและทำงาน เราก็ถึงได้มา “อ๋อ” ขึ้นว่าระบบราชการเมืองไทย เราก็พบว่าคนที่ “อยู่เป็น” ไหลตามน้ำ เออออตามนายไปเสียหมด ประจบนายบ่อยๆจะได้ดิบได้ดี ได้เลื่อนขั้น ได้ออกหน้าในงานสำคัญเสมอ ส่วนคนที่พยายามคัดค้าน ทักท้วง วิจารณ์ ก็จะโดนแช่โดนดองให้อยู่ตำแหน่งเดิม พร้อมคำปลอบใจว่า “คุณมีความสามารถนะ แต่คุณต้องเข้าใจวัฒนธรรมองค์กร และต้องทำงานเป็นทีม ไม่ทำตัวแตกแถว”
คำถามคือถ้าวัฒนธรรม “ประจบนาย” ในวงราชการยังอยู่ คนอย่างประยุทธ์ และครม.ทั้งคณะจะรู้ความจริงจริงๆหรือไม่ และข้อมูลที่นำเสนอให้กับประยุทธ์และครม.เป็นข้อมูลที่ถูกตัดแต่งเพื่อให้เบื้องบนสบายใจว่าตัวเองทำงานดีเลิศแล้วหรือไม่ เราเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่รัฐบาลรวมถึงกองเชียร์รัฐบาลถึงเก่งกันโทษ เก่งกันประณามประชาชนด้วยกันเหลือเกิน แต่นิ่งเฉยทำตาบอดตาใสกับปัญหาฝั่งรัฐบาล ด้วยข้ออ้างว่า “รัฐบาลทำเต็มที่แล้ว นี่เป็นเหตุสุดวิสัย ที่ปัญหายังอยู่เพราะประชาชนทำตัวไม่ดีต่างหาก”