(สำหรับภาษาไทย กรุณาเลื่อนลงด้านล่าง)
The year 2020 will be a milestone for many things in the world including the first year of ageing society, the rise of 5G cellular network and Internet of Things era, where food is conveniently bought by mobile purchase with your fingertip. The change of the people’s behavior will lead to the change of consumer behavior. This will surely significant determine the food trend of 2020.
There are some points to think about. They can be concluded into three items; healthy, easy and friendly.
First of all, the food in 2020 needs to be “Healthy”. New technologies make life easier and lead to new career path. Thus, people earn more income, which contributed to the rise of middle class. When people have more money, they tend to spend it wisely. So, healthy food products are now the key issue.
Nobody wants to be sick in the bed throughout their sixties or seventies. In 2020, the consumer will take a good care about what is in their food, the consumer wants to feel ensured that the materials in the food products are good for their health. New technology like plant-based meat will become a promising alternative. In 2020, the healthy lifestyle is still presented as an ideal lifestyle via social media. On Instagram, slim models post their fit and firm body in a gym or during workout. It makes the consumer tends to cut back on sugar as it is believed to be the root cause of weight gain and diabetes.
Moreover, Hugh Evans, a marketing manager of Synergy Flavours, a manufacturer and supplier of flavourings, extracts and essences of food products based in USA, contended that a product that shows health benefits to the customer would have more sale advantages as he quoted that “products that offer documented health benefits, particularly for gut health and in supporting fitness regimes, appeal.”
Evans also stated that many companies had released their new products to incorporate with the healthy trend such as Wicked Kitchen vegan ready meals, Ben & Jerry’s vegan range, Milkybar Wowsomes with 30% less sugar and Mars Protein.
Secondly, the food in 2020 has to be “Easy”. A convenient packaging for eat-on-the-go food has been a prominent food trend for decades. Mayura Pradtanaplian, from National Food Institute of Thailand, Ministry of Industry, stated that there have been some food products that implement easy-packaging to add value to the products. She gave examples of “Coconut Easy”, a fresh coconut from Thailand. Coconut Easy uses laser cutting technology to put a ring pull on top of the shell. The consumer can drink the coconut juice easily by just pulling the ring, the same way as drinking a can of cola.
Apart from that, Hugh Evans mentioned that the food in 2020 must be ‘easy’ for the consumer to try something revolutionarily new. The internet and globalization have made our world smaller and closer. It must be easy for the consumer to eat food from different cultures that are fused together. Evans suggested that merging Asian and western food such as Wagyu or Kimchi burgers would be a trend next year.
According to a study from Mintel, a global market research organization, in 2018 showed that 71% of consumers agree that “I enjoy trying world cuisines I haven’t cooked before at home.”
That is the thing the food manufacturers need to make “easy” in 2020.
Lastly, “Friendly” is the most important factor for the 2020 food trend. The food is expected to be friendly with not only the environment but also the community and the consumer themselves.
People do not eat food only to survive, a research team from AZTI Tecnalia, a food manufacturing company from Spain, cited that people consume food from each brand to express who they are. AZTI coined the term “EgoFood”, which means food expression. The consumer who is 24/7 connected to the internet can scroll down their phones to read news and look up information they are interested in within seconds. The consumer relies more on a company that is socially responsible. The food manufactured in 2020 is expected not to harm the environment, the ingredients need to be more natural with less or no chemical substances added. The climate change is now a hot issue and people seem to associate themselves with brands that share the same value with them.
Furthermore, people in 2020 seem to be interested in food that is traditionally made rather than what is made in the factory. The trend of craft alcoholic drinks will be on the rise. According to Mintel, a research done in August 2018 revealed that Three in ten UK adults say they have bought a craft alcoholic drink. Buying such beverages support the businesses of a small local community.
Additionally, the food next year needs to be consumer-friendly. For example, it must be soft and easy or no need to chew to support ageing society. When people get older, they will lose their teeth. The food manufacturers must make their food friendly for people who have few or no teeth. According to the lecture from Mayura Pradtanaplian, from National Food Institute of Thailand, she said that nowadays in Japan, a country having ageing society, the food is categorized in four levels according to the chewability as follows; readily chewable, crushable with gums, crushable with tongue and no need to chew.
Apart from that, the food in 2020 must be friendly enough to give a surprise experience to the consumer. Under the concept of “Eater_Tainment”, the food next year must be fun. It will be a hard work for food manufacturers to come up with awe-inspiring ideas to impress the consumer.
The food that is Healthy, Easy and Friendly. These are the overview of 2020 food trend, which is driven by the emerging of middle-class people, global warming and ageing society. But one thing that has and will never change is people will always look for better and tastier food.
เทรนด์อาหารปี 2020 : ดีต่อสุขภาพ, สะดวกสบายและเป็นมิตรต่อสิ่งรอบตัว
ปี 2020 จะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นของหลายต่อหลายสิ่งบนโลกนี้ มันจะเป็นปีเริ่มต้นของสังคมผู้สูงอายุ เป็นปีแห่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 5G และการเข้าสู่ยุค Internet of Things ที่อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้ ทำให้เราสามารถเข้าถึงอาหารได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป และเป็นตัวกำหนดเทรนด์ของอาหารในปี 2020
การเปลี่ยนแปลงนี้มีหลายประเด็น ที่สรุปออกมาได้ 3 ข้อคือ อาหารในปีหน้านั้นต้อง “ดีต่อสุขภาพ, สะดวกสบายและเป็นมิตรต่อสิ่งรอบตัว”
ในข้อแรกซึ่งก็คือเรื่องของสุขภาพนั้น เกิดจากกำลังซื้อของคนที่มากขึ้น เทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกให้ชีวิตเรา ได้เพิ่มทักษะการทำงานและพัฒนาไปสู่อาชีพใหม่ๆได้มหาศาล ผู้คนมีรายได้มากขึ้น นั่นทำให้ชนชั้นกลางขยายตัว เมื่อคนมีเงินมากขึ้น เขาก็อยากจะใช้เงินอย่างคุ้มค่า นั่นทำให้อาหารเพื่อสุขภาพเป็นสิ่งที่พวกเขาจับตา
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากนอนติดเตียงหลังวัยเกษียณ ผู้บริโภคในปี 2020 จึงใส่ใจในเรื่องวัตถุดิบมากเป็นพิเศษ พวกเขาต้องการมั่นใจว่าวัตถุดิบเหล่านั้นจะช่วยบำรุงสุขภาพได้ ซึ่งเปิดโอกาสให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น เนื้อสัตว์สังเคราะห์ที่เกิดจากการเพาะพันธุ์พืช ไลฟ์สไตล์ที่สุขภาพดียังคงเป็นวิถีชีวิตที่คนใฝ่ฝันถึงอยู่เสมอ อย่างที่เราเห็นในสื่อโซเชียล ที่นางแบบหุ่นเพรียวโพสต์ภาพฟิตแอนด์เฟิร์มของเธอเวลาออกกำลังกาย กระแสนี้ทำให้คนรุ่นใหม่หลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำตาล เพราะมันทำให้น้ำหนักขึ้นและเป็นโรคเบาหวาน
นอกจากนี้ Hugh Evans ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ Synergy Flavours ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารปรุงรสและอาหารสกัดจากสหรัฐอเมริกา ให้ความเห็นว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีฉลากแสดงคุณประโยชน์ด้านสุขภาพให้ลูกค้าเห็นอย่างชัดเจน จะมีโอกาสขายดีกว่า เขายังให้ความเห็นเสริมไปว่า “ผลิตภัณฑ์ที่มีเอกสารชี้แจงคุณประโยชน์ด้านสุขภาพ โดยเฉพาะด้านร่างกายและเข้ากันได้กับวิถีชีวิตที่ออกกำลังสม่ำเสมอจะโดดเด่นขึ้นมาจากผลิตภัณฑ์อื่น”
Evans ยังกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันบริษัทจำนวนไมน้อยได้ออกผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับเทรนด์รักสุขภาพ เช่น อาหารวีแกนสำเร็จรูปของ Wicked Kitchen หรือ ไอศกรีมวีแกนของ Ben & Jerry’s หรือช็อคโกแลตแท่ง Mars ได้ออกสูตรลดน้ำตาล 30%
ประการต่อมา อาหารในปี 2020 นั้นต้องสะดวกสบาย บรรจุภัณฑ์ที่เปิดง่ายและอาหารที่พร้อมทานได้ทุกที่เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมายาวนาน มยุรา ปรารถนาเปลี่ยน จากสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ได้กล่าวไว้ว่าผู้ประกอบการบางรายในประเทศไทยได้ทำบรรจุที่เปิดได้สะดวกสบายเพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ออกมาแล้ว มยุราได้ยกตัวอย่างของ Coconut Easy ที่ขายมะพร้าวเผา ผู้ประกอบการได้ใช้เทคโนโลยีเครื่องตัดเลเซอร์ ทำรอยบากและติดห่วงดึงที่เปลือกของมะพร้าว ผู้บริโภคสามารถดื่มน้ำมะพร้าวได้ง่ายๆ แค่ดึงห่วงเหมือนเปิดกระป๋องน้ำอัดลม
นอกจากนี้ Hugh Evans ยังมองว่าอาหารในปี 2020 ต้องสะดวกสบายพอที่ผู้บริโภคสามารถทานอะไรแปลกใหม่ได้ง่ายๆ อินเตอร์เน็ตและโลกาภิวัฒน์ทำให้โลกของเราเล็กลงและใกล้กันมากขึ้น อาหารในปีหน้าต้องอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคได้กินอาหารที่ผสมผสานวัฒนธรรมของแต่ละประเทศเข้าด้วยกัน Evans ยกตัวอย่างอาหารที่เอาความเป็นเอเชียผสมกับตะวันตก เช่น เบอร์เกอร์เนื้อวากิว หรือ เบอร์เกอร์กิมจิ จะเป็นเทรนด์ในปีต่อไป
นอกจากนี้ จากงานวิจัยในปี 2018 ของ Mintel องค์กรที่ศึกษาตลาดจากทั่วโลก ได้บ่งชี้ว่า ผู้บริโภค 71% เห็นว่า “พวกเราสนุกที่จะทานอาหารนานาชาติที่ไม่เคยทำกินที่บ้านมาก่อน”
นี่คือปัจจัยสำคัญทางอาหารที่ผู้ผลิตจะต้องทำให้ “สะดวกสบาย” ในปี 2020
ท้ายที่สุดนี้ “ความเป็นมิตร” คือปัจจัยสำคัญในเทรนด์อาหารปี 2020 ความเป็นมิตรนี้ไม่จำกัดแค่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่อาหารนั้นต้องเป็นมิตรกับชุมชนและผู้บริโภคเองอีกด้วย
คนสมัยนี้ไม่ได้กินเพื่ออยู่อีกต่อไป นี่คือข้อมูลจากการวิจัยของ AZTI Tecnalia ผู้ผลิตอาหารจากสเปน ที่รายงานว่า ผู้คนทานอาหารจากแบรนด์ต่างๆ เพื่อแสดงตัวตนของพวกเขา AZTI Tecnalia ได้เรียกสิ่งนี้ว่า “EgoFood” ที่หมายถึงการแสดงออกผ่านอาหาร ปัจจุบันผู้บริโภคได้เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้เขาดูข่าวและเช็คข้อมูลใหม่ๆ ได้ทันที บริษัทที่รับผิดชอบต่อสังคมนั้นจะได้ใจผู้บริโภคมากกว่า ผู้บริโภคคาดหวังว่ากระบวนการผลิตอาหารจะต้องไม่ไปทำลายสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ผู้คนในปี 2020 มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนผลิตโฮมเมดมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเครื่องจักร เห็นได้จากเทรนด์ของคราฟท์เบียร์ที่กำลังได้รับความนิยม ในเดือนสิงหาคม 2018 ทาง Mintel ได้ทำการสำรวจและพบว่า 3 ใน 10 คนของผู้ใหญ่ในสหราชอาณาจักรเคยซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบคราฟท์ การซื้อเครื่องดื่มแบบคราฟท์หรือที่บ่มกันเองในร้าน จะช่วยสนับสนุนกิจการของชุมชนอีกด้วย
ยิ่งกว่านั้น อาหารในปีหน้าจะต้องเป็นมิตรกับผู้บริโภค ยกตัวอย่างเช่น อาหารจะต้องนุ่ม เคี้ยวง่าย หรือกลืนลงคอได้เลย เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ เมื่อคนเราแก่ตัวขึ้น ฟันก็จะหักหรือร่วงหมดปาก ผู้ผลิตอาหารจำต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ มยุรา ปรารถนาเปลี่ยน ได้บรรยายไว้ว่า ที่ประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่เผชิญกับสังคมผู้สูงอายุ ณ ปัจจุบัน ได้แบ่งอาหารออกเป็น 4 กลุ่มแบ่งตามลักษณะการเคี้ยวไว้ดังนี้ 1. ต้องเคี้ยวก่อนกลืน 2. สามารถใช้เหงือกขบให้แหลกก 3. สามารถใช้ลิ้นบดให้แหลก และ 4. กลืนได้เลยไม่ต้องเคี้ยว
ไม่ใช่แค่นั้น อาหารในปี 2020 จะต้องเข้าถึงผู้บริโภคและสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจแก่ผู้บริโภค ภายใต้แนวคิด “Eater_Tainment” (อีตเตอร์เทนเมนต์) การทารอาหารจะต้องสนุก และนั่นคือโจทย์ใหญ่ที่ผู้ผลิตอาหารจะต้องเอาไปขบคิดเพื่อหาสินค้าเด็ดๆ มาซื้อใจผู้บริโภค
อาหารในปีหน้านั้นจะต้อง “ดีต่อสุขภาพ, สะดวกสบายและเป็นมิตรต่อสิ่งรอบตัว” นี่คือภาพรวมของเทรนด์ในปี 2020 ที่เกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงของสังคมทั้งการขยายตัวของชนชั้นกลาง ภาวะโลกร้อน และสังคมผู้สูงอายุ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือผู้บริโภคที่ต้องการอาหารที่ดีกว่าเดิมทั้งรสชาติและคุณภาพ
THANYANAN 