สรุป Timeline คดีชัยภูมิ ป่าแส — ความตายของเยาวชนนักกิจกรรมชาวลาหู่ กับความยุติธรรมที่น่าตั้งคำถาม ว่าภาพจากล้องวงจรปิดตอนนี้อยู่ที่ใคร และที่สำคัญ “ยังอยู่หรือไม่”
17 มี.ค. 60
ชัยภูมิถูกยิงเสียชีวิตที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารพบเจอยาบ้า 2,800 เม็ด นายชัยภูมิจะใช้อาวุธมีดและระเบิดทำร้ายเจ้าหน้าหน้าที่ ทหารเลยยิงนัยชัยภูมิเพื่อป้องกันตัว
ถึงอย่างนั้นมีชาวบ้านรายงานว่านายชัยภูมิถูกทหารรุมซ้อม และทหารยิงตอนที่นายชัยภูมิวิ่งหนี ประกอบกับคนที่รู้จักกับนายชัยภูมิก็ยืนยันว่าเขาเป็นเด็กดี ทำกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ไม่น่ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

24 มี.ค. 60
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่าได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่าทหารทำทุกอย่างตรงกับคำให้การของพล.ต.ท.พูลทรัพย์พร้อมกล่าวว่า “ผมว่าสมเหตุสมผลในการยิงป้องกันตัว ถ้าเป็นผมอาจกดออโต้ก็ได้” เช่นเดียวกับที่ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เปิดเผยว่าได้ดูภาพแล้วแต่ไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด
27 มี.ค. 60
ทางทหารได้ส่งมอบภาพจากกล้องวงจรปิดให้กับตำรวจเพื่อเอาไว้พยานในชั้นศาล เลยไม่สามารถเอามาเผยแพร่ให้คนดูได้นอกจากศาลอนุญาต
28 มี.ค. 60
เพจพลเมืองต่อต้าน Single Gateway และเฟซบุ๊คส่วนตัวของนายเมธา มาสขาว ได้เผยแพร่ภาพนิ่งของเหตุการณ์ตอนที่ตำรวจเข้าตรวจค้นรถนายชัยภูมิ พบว่าชัยภูมิให้ความร่วมมือดี แต่ทางตำรวจบอกว่าภาพที่หลุดมาทางโซเชียลสามารถตัดต่อได้
17 เม.ย. 60
รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยว่ายังไม่ได้รับภาพหลักฐานกล้องวงจรปิดจากทหาร
13 พ.ค. 60
ตำรวจได้รับฮาร์ดดิสก์ของกล้องวงจรปิดจากทหารแล้ว แต่ไม่กล้าเปิดเพราะกลัวหลักฐานเสียหาย จึงใช้สก็อตเทปพันและเซ็นต์ชื่อกำกับ และส่งต่อไปยังกองพิสูจน์หลักฐานกลาง
15 พ.ค. 60
ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง กล่าวว่ายังไม่สามารถเปิดฮาร์ดดิสก์ดูได้ ต้องใช้โปรแกรมเฉพาะจากเครื่องบันทึก และได้ประสานกลับไปยังสำนักงานตำรวจภูธรถภาค 5 ให้ติดต่อกับทางทหาร เพื่อขอเครื่องบันทึกมาตรวจสอบ
15 มี.ค. 61
ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ได้ไต่สวนคดีการตายของนายชัยภูมิ เพื่อทำสำนวน ก่อนหน้านี้ญาติและทนายความได้เรียกร้องขอดูข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ได้ความว่า “ไม่พบภาพในวันเกิดเหตุคือวันที่ 17 มี.ค. 2560 ในตัวฮาร์ดดิสก์” และไม่ได้ให้คำตอบว่าหายไปได้อย่างไร และข้อมูลอยู่ที่ใคร
7 มิ.ย. 61
ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้ไต่สวนคดี สรุปผลว่านายชัยภูมิเสียชีวิตเพราะถูกพลทหารสุรศักดิ์ รัตนวรรณ ใช้ปืนเอ็ม 16 ยิง ศาลจะสรุปสำนวนคดี และส่งให้อัยการพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องจนท.ที่เกี่ยวข้องต่อไปหรือไม่ โดยไม่ได้พูดถึงภาพจากกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด

ถึงแม้คดีจะไม่คืบหน้าเท่าไหร่นัก แต่ทุกๆ คนยังคงสู้ต่อเพื่อความยุติธรรม ทางนายไมตรี จำเริญสุขสกุล ประธานกลุ่มรักษ์ลาหู่ ผู้ดูแลชัยภูมิ กล่าวว่า
“ขอยืนยันว่าสิ่งที่เราอยากได้คือความยุติธรรม ซึ่งคำตัดสินแบบนี้เรารู้สึกว่าไม่เป็นธรรมกับเรา ที่สำคัญคือข้อกังขา และเป็นข้อสงสัยของพวกเราตลอด 1 ปี คือพวกเราที่เป็นญาติสนิทของชัยภูมิ ไม่มีใครได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุเลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
เช่นเดียวกับรัษฎา มนูรัษฎา อุปนายกสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน หนึ่งในทีมทนายความของชัยภูมิ ที่เรียกร้องให้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดให้เร็วที่สุด
“จำเป็นที่ต้องร้องขอให้กองทัพบกที่เป็นหน่วยงานดูแลทหาร ให้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุให้สาธารณชนได้รับรู้ เพราะตอนนี้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารมีความเห็นให้เปิดเผยเรื่องนี้ เพื่อยืนยันในความโปร่งใสของเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติงานในจุดดังกล่าว”
หวังว่าภาพจากกล้องวงจรปิด ข้อมูลที่สำคัญต่อคดีจะถูกเปิดเผยในเร็ววันนี้ เหมือนกับที่คุณหทัยรัตน์ พหลทัพ นักข่าวด้านสิทธิมนุษยชนจาก Thai PBS ได้กล่าวไว้ “To bring truth is to bring peace” การนำเสนอความจริงจะนำความสงบสุขมาให้
ที่มาของข้อมูลทั้งหมด https://goo.gl/eE9G9H